Monday, December 29, 2008

สิ่งที่ได้จากวังน้ำเขียว

จากบทความเก่า "ปีนี้ไปไหนดี ... วังน้ำเขียว"

"นั่น ๆ เห็นภูเขาลูกนั้นหรือเปล่า? เรากำลังจะขับไปที่นั้นแหละ" เป็นประโยคหนึ่งที่ผมได้เอ่ยกับคนที่นั่งรถไปกับผม ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดแรกที่เราจะเห็นภูเขาที่เรากำลังจะไป และบนนั้นเป็นดินแดนที่ใคร ๆ ก็นิยมไปพักผ่อนกันในยามนี้ นั้นคือ "วังน้ำเขียว".

อำเภอ วังน้ำเขียว ที่ผมเข้าใจคือเป็นส่วนหนึ่งของสองจังหวัด คือ นครราชสีมาและปราจีนบุรี สามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ มาได้หลาย ๆ ทาง แต่ทางที่ผมชอบคือ มาจากทางกบินทร์บุรี เพราะว่าการเดินทางสะดวกกว่าการเดินทางมาจากสระบุรี แต่ถ้าใครอยากขับรถชมความงานของเขาแผงม้าหละก็ แนะนำมาทางเขาใหญ่ครับ เอาไว้จะเขียนอีกบทความถึงเขาแผงม้า.

ถ้าหากดูแผนที่ภูมิทัศน์กูเกิล จะเห็นว่า อ.วังน้ำเขียวนั้นเป็นพื้นที่ราบบนภูเขา มีภูเขาล้อมรอบ อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 14-28 องศาเซลเซียส และเนื่องจากภูมิอากาศอย่างนี้นี่เอง หลาย ๆ คนจึงอยากมาสัมผัสบรรยากาศ ถัดจาก อ.วังน้ำเขียวขึ้นไปคือ อ.ปักธงชัย เป็นดินแดนแห่งผ้าไหม และเป็นเส้นทางไป อ.เมือง จ.นครราชสีมาด้วย

"แผนที่" พูดถึงแผนที่แล้วฮา ที่จริงแล้วผมขับโดยไม่ใช้แผนที่ก็ได้เพราะเคยไปมาแล้ว แต่ผมดันติดแผนที่ที่หาได้จากอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นแผนที่ที่ใช้สำหรับระบบระบุตำแหน่ง หรือที่เรียกว่า GPS พิมพ์ออกมาได้ 33 แผ่น อย่างละเอียด แต่มันดูเหมือนเป็นของเล่นระหว่างทางมากกว่า เพราะว่าการพิมพ์ออกมาไม่ได้ระบุเลขหน้าไว้ ทำให้พวกเราต้องใช้เวลาในการเรียงหน้ากัน แต่... ด้วยมือสมัครเล่นอย่างพวกผม ทำให้การใช้แผนที่ครั้งนี้เป็นการยืนยันว่า แผนที่ถูกต้อง คือ ผมจะคอยบอกคนที่กำลังเล่นตัวต่อว่า เราผ่าน จุดนี้ จุดโน้น มาแล้ว แล้วทางผู้เล่นจึงค่อยเจอแผนที่แต่ละแผ่น ครั้งนี้จึงได้บทเรียนที่ดี 2 ข้อคือ ข้อที่ 1 ให้นำแผนที่แผ่นใหญ่ ๆ ติดตัวไปด้วย ส่วนข้อ 2 ระหว่างทางถ้ามีเกมส์เล่นของผู้ร่วมเดินทาง คนขับรถจะได้ไม่เหงา เอาไว้แก้เผ็ดคนที่ชอบนอนระหว่างทาง

เส้นทางที่เราต้องขับให้เจออันแรกคือ ถนนสาย 304 ซึ่งจะเป็นถนนที่มุ่งหน้าไปสู่ อ.วังน้ำเขียว ขับไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องเลี้ยว แล้วเราจะผ่าน อ.กบินทร์บุรี เราก็จะเห็นป้ายที่บอกว่าตรงไป อ.วังน้ำเขียว

"ปั๊มน้ำมัน" สำหรับมือใหม่ที่ไม่เคยไปเส้นทางนี้ หลังจากผ่าน อ.กบินทร์บุรี มุ่งหน้าไปยัง อ.วังนำ้เขียว จะเห็นป้าย บอกเป็นระยะว่า "ปั้มสุดท้ายอยู่ข้างหน้า อีก ... กิโลเมตร" ถ้าหากคุณเป็นคนต้องเติมน้ำมันมียี้ห้อหละก็ แนะนำให้เติมแถว ๆ อ.กบินทร์บุรีนะครับ


"ภูเขาข้างหน้า นั่นหมอกหรือควัน" จากประสบการณ์จากเขาใหญ่ ทำให้เราไม่แน่ใจว่า นั่นหมอกหรือไม่ เพราะเคยตกอยู่ท่ามกลาง หมอกที่มีฝนตกลงมาเยอะมาก จากจุดนี้ถ้าหากเปิดกระจกแล้วขับรถดู อากาศเย็นมาเยือนแล้วครับ

หลังจากผ่าน อุทยานแห่งชาติทับลาน นั้นแสดงว่า เรากำลังขึ้นเขาครับ ทางขึ้นเขานั้นดูจะอันตรายหน่อย เพราะว่า เป็นทางที่ค่อนข้างชันและเล็ก เป็นทางที่มีรถบรรทุกผ่านเยอะมาก แถมยังแซงยากอีกด้วย ดังนั้นผู้ที่จะขับผ่านทางนี้จะต้องมีความชำนาญรถที่ท่านขับซักหน่อย พอผ่านช่วงเขาแล้วเราก็จะพบว่ามีตลาดและชุมชนเกิดขึ้นที่นี่ ขับไปอีกระยะ เราจะพบกับป้ายบอกทางให้กลับรถ

"กลับรถเข้าซอย" อันที่จริงสิ่งที่ผมคิดไว้คือ อ.วังน้ำเขียวน่าจะหมายถึงทั้งอำเภอ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่แท้จริงแล้ว มันแค่ซอย หรือ ถนนเดียวเอง น่าเสียดาย

หลังจากกลับรถและเข้าไปในถนนที่มุ่งสู่ ต.ไทยสามัคคี แล้ว ระหว่างทางจะเห็นว่ามีสถานที่เที่ยวมากมาย


อ่านต่อฉบับหน้าแล้วกัน

Monday, December 8, 2008

วัฒนธรรมประจำชาติ (Updated)

ผมมีความคิดอยู่อย่างแล่นเข้ามาในสมองพอดี ขอจดไว้ก่อน

ถ้าหากเรานั้นถูกซึมซับไปด้วยวัฒธรรมจากต่างประเทศเช่น

อเมริกา สินค้าและวัฒนธรรมการเรียน
ยุโรบ การเรียน อันนี้เจอเอง
ญึ่ปุ่น มาจากเพลง และกิโมโน
ไตหวัน เริ่มจาก F4 มั้ง นักร้อง
เกาหลี มาโดยภาพยนต์และเพลง
จีน สินค้าและภาษาที่ต้องติดต่อ


แล้วแต่ละวัฒนธรรมก็ตามมาด้วยสินค้า ที่ธรรมดา แต่อยากมี อยากเห็น อยากเที่ยว

สิ่งที่สะท้อนกลับมาให้เห็นความสำเร็จของสิ่งเหล่านี้คือ วัยรุ่น วัยรุ่นเรากำลังถูกซึมซับ และบังคับให้เปลี่ยนพฤติกรรมต่าง ๆ ไปแต่ละยุคและสมัย แล้วสิ่งเหล่านี้จะรู้อีกทีก็ถูกกลืนกินแล้ว

--- Updated --
ผมนึกภาพไม่ออกตอนที่ ถ้าฝรั่งมาบ้านเราแล้วถามว่า ชุดไทย หรือการไหว้ แบบไทย ๆ เป็นอย่างไร เดี๋ยวนี้เห็นแต่จับมือแล้วบอกว่า Haloo