Friday, October 22, 2010

Contents

เมื่อวานไปนำเสนอบริการและสินค้าให้ลูกค้าฟัง แต่กลับได้แนวคิดดี ๆ มาเยอะเลย (การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดจริง ๆ )

นึกถึงเมื่อก่อนยังเด็กเล็กนัก ผมก็จำได้ว่า ช่องโทรทัศน์ที่เราดูกันก็มี 3,5,7,9,11 เท่านั้น ที่เป็นช่องดูฟรี พอผ่านมาอีกระยะก็มี itv, thai pbs, nation channel ...  แต่เดี๋ยวนี้เรามีดาวเทียมแล้ว ดาวเทียมนี่ทำให้ผมเห็นว่าเราสามารถดูรายการได้มากมาย จำนวนช่องเกือบเป็นร้อยเลย....

และเมื่อก่อนนี้เราถูกบังคับดู คือ เค้าฉายอะไรเราก็ดู อย่างมากก็เปลี่ยนหนีไปไม่กี่ช่อง เดียวนี้เปลี่ยนได้เกือบเป็นร้อย แต่ที่น่าเสียดายคือ ไม่รู้เพราะว่ามันฟรีหรือเปล่า เลยมีแต่ MV, หนังเก่า ๆ หรือไม่ก็รายการขายสินค้าเป็นหลัก เราหรืออยากดูประเภทพวกสารคดี ก็เห็นแต่ NHK, กบนอกกะลา, คนค้นคน (ค. คน เครื่องผมไม่แฮะ) แล้วก็รายการอะไรที่มาตอนดึก ๆ ของ Thai PBS  นี่แหละเป็นที่พึ่งในยามนี้

ที่จริงแล้วผมอยากดู Discovery Channel, Blue Planet, Earth มากกว่า แต่ดันต้องเสียเงินเป็นแพ็กเก็จนี่สิ ทำให้ตัดสินใจไม่ได้ซักที

สิ่งที่ผมอยากดูนั้นก็ไม่ใช่อะไร มันเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเรานี่เอง แต่เป็นรอบตัวที่ไกลสักหน่อย คือเป็นของต่างประเทศ ซะส่วนมาก

ด้วยเหตุนี้ผมก็เลยได้แนวคิดว่า ถ้ามีบริษัทไทยที่ทำเกี่ยวกับพวกนี้ก็คงจะดี


  1. ที่มาของแม่น้ำเจ้าพระยา
  2. พระนครศรีอยุธยา
  3. กรุงเทพมหานคร 
  4. การปลูกข้าวของคนไทย
  5. ผืนป่าของประเทศไทย
  6. ฟ้าใต้ทะเล
  7. ชาวเขา ชาวเรา
ผมว่าแค่เรื่องที่กล่าวมานี้ก็อาจทำกันได้หลายตอนแล้ว แล้วเราก็ยังสามารถขายไปยังต่างประเทศได้ด้วย เหมือนกับ Discovery Channel นี่แหละ



ผมว่า Contents ของประเทศไทย เรามีเยอะมาก แต่ขาดการสนับสนุนมากกว่า เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นคนผลิตหรือคนบริโภค ต่างให้ความสัมคัญกับ Contents ของต่างประเทศมากไป เช่น

  • เรารู้ว่าเกาหลีมีกิมจิ
  • ญี่ปุ่นมีน้ำพุร้อน และปลาดิบ
  • ยุโรปมีปราสาทกับนักบอล
  • อเมริกามี iPhone
  • แอฟริกามีทุ่งหญ้า และสัตว์ป่า
แต่เราลืมดูไปว่า "เรามีดีอะไร"

No comments: